รวมสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามของขั้นตอนการทำ SEO On-site optimization

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาดออนไลน์ เป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของทุกธุรกิจที่ต้องหมั่นลับคมอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าทักษะของคุณไม่พัฒนาตามยุคสมัยและแพลตฟอร์มออนไลน์ คุณจะก้าวตามหลังคนอื่นทันที! 

SEO เป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ฝ่ายการตลาดและนักทำคอนเทนต์ให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไวยิ่งกว่า 5G แนวทางในการทำคอนเทนต์อย่าง On-site optimization จึงกลายเป็นกุญแจลับ ที่จะช่วยไขรหัสขั้นตอนการทำ SEO ให้เป็นเรื่องง่าย หากจับทางได้เมื่อไหร่ คอนเทนต์ที่ผลิตก็จะมีคุณภาพมากเท่านั้น


On-site optimization ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์อยู่เสมอ

หนึ่งในแนวทางสำคัญของขั้นตอนการทำ SEO อย่างการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ติดอันดับ (On-site optimization) เป็นแนวทางที่เราจะต้องคอยปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์ให้สมบูรณ์ โดยการใส่คีย์เวิร์ดที่ผ่านการรีเสิร์ชมาแล้วให้สอดคล้องกับอัลกอริทึม (Algorithm) ของ Search Engine เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้นจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการทำ SEO On-site optimization ไม่ได้สักแต่จะใส่คีย์เวิร์ดเพียงอย่างเดียวแต่ต้องคำนึงถึงส่วนประกอบเหล่านี้ด้วย


1. Meta Title

ชื่อหรือข้อมูลที่แสดงอยู่บนแท็บด้านบนสุดของเบราว์เซอร์ (Title Bar) และเป็น Headline ที่แสดงเวลาที่เราค้นหาบน Search Engines ต่าง ๆ ในขั้นตอนการ optimization SEO จะต้องใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาลงไป เพื่อดึงดูดให้คนสนใจคลิกและเพิ่มโอกาสขึ้นอันดับค้นหา


2. Meta Description

คำอธิบายเนื้อหาเว็บไซต์เป็นส่วนขยายความจาก Meta Title ทำหน้าที่อธิบายภาพรวมของหน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะแสดงขึ้นเมื่อผู้ใช้งานค้นหาบน Search engines Meta Description จะปรากฏอยู่ในบรรทัดที่สองใต้ Headline และ URL เว็บไซต์ ในหน้า SERP (Search Engine Result Page) ขั้นตอนการทำ SEO ในส่วนนี้ควรใส่คีย์เวิร์ด ในช่วงต้นของเนื้อหาเพื่อเพิ่มโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะตัดสินใจคลิกเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์ของเรา


3. Content

ขั้นตอนการทำ SEO ในส่วนของเนื้อหาบนเว็บไซต์ นอกจากจะต้องใส่คีย์เวิร์ดหลักแล้ว ควรใส่คีย์เวิร์ดรองเพิ่มเติมลงในเนื้อหาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คีย์เวิร์ดหลักเยอะเกินไปจน Google เข้าใจว่าเรากำลังผิดกฎหรือกำลังสแปม โดยวิธีง่าย ๆ คือการใช้คีย์เวิร์ดรองที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำหลักมาช่วยซัพพอร์ทนั่นเอง


4. H1 หัวข้อสำคัญ

H1 หรือ Heading1 ที่ทำหน้าที่แสดงชื่อเรื่อง, หัวข้อเรื่องหลัก, ใน HTML code ของหน้าเว็บไซต์ การใส่ Keyword SEO ลงใน H1 จะช่วยเพิ่มความสำคัญให้กับคีย์เวิร์ดมากขึ้น โดยหนึ่งหน้าเว็บเพจควรมี H1 เพียง 1 อัน และควรใส่ทุกครั้งที่มีการทำคอนเทนต์ลงเว็บไซต์ เพื่อไม่ให้ Google เกิดความสับสน จนทำให้หน้าเว็บไซต์ของเราไม่ถูกจัดเข้าไปในหน้า SERP (Search Engine Result Page) อย่างที่ควรจะเป็น

«
»

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *